วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ปลา


ปลา   
        เป็นสัตว์เลือดเย็น สามารถปรับอุณหภูมิของร่างกายตามอุณหภูมิของสิ่งแวดล้อม อาศัยอยู่ในน้ำจืดและน้ำเค็ม มีกระดูกสันหลังต่อกันเป็นข้อๆ ภายในร่างกายลักษณะสำคัญ คือ มีครีบช่วยในการว่ายน้ำ หายใจด้วยเหงือก มีถุงลมอยู่ในตัว ช่วยลดและเพิ่มปริมาณอากาศ และยังช่วยในการลอยตัวของปลา มีขากรรไกรบนและล่าง สามารถอ้าปากเพื่อฮุบน้ำที่มีอาหารปนอยู่ บางชนิดมีเกล็ด บางชนิดไม่มีเกล็ด บางชนิดมีฟันแหลมคม สามารถจับเหยื่อได้เป็นอย่างดี รูปร่างของปลาแต่ละชนิดมีความแตกต่างกัน บางชนิดมีลำตัวยาว เช่น ปลาไหลบางชนิดลำตัวทรงกระบอง เช่น ปลาช่อน บางชนิดมีลำตัวแบน เช่น ปลากระเบน ส่วนปลาปักเป้ามีลำตัวค่อนข้างกลม และมีหนามแหลมยื่นออกตามิวหนังเพื่อป้องกันตัว มัาน้ำมีรูปร่างแปลกกว่าปลาอื่นๆ มีหางม้วนงอสำหรับจับยึดกิ่งไม้หรือปะการังใต้น้ำได้ด้วย กระดูกของปลา เราเรียกว่า ก้าง บางชนิดมีเมือกที่ทำให้ลื่นสามารถเคลื่อนที่ได้สะดวก  เช่น
 ปลาตะเพียนขาว


วีดีโอ ปลาตะเพียนขาว และ ปลาตะเพียนทอง




  ปลาตะเพียนขาวเป็นปลาพื้นเมืองและเป็นปลาที่คนไทยทั่วทุกภาค ของประเทศรู้จักปลาตะเพียนขาวมีชื่อสามัญหรือภาษาอังกฤษว่า Jawa หรือ carp มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Puntius gonionotus (Bleeker) เป็นปลาที่สามารถ นำมาเลี้ยงและเพาะขยายพันธุ์ได้ง่ายจึงเป็นปลาพื้นเมืองที่ได้รับการคัดเลือกให้ ส่งเสริมในการเพาะเลี้ยงชนิดหนึ่ง ในด้านโภชนาการนั้นเป็นปลาที่ได้รับ ความนิยมอย่างกว้างขวางในหมู่คนไทยทั้งในเมืองและชนบท
        
 แหล่งกำเนิดและการแพร่กระจาย
  ปลาตะเพียนขาวเป็นปลาที่มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่แถบแหลมอินโดจีนชวาไทยสุมาตราอินเดียปากีสถานและยังมีชุกชุมในถิ่นดังกล่าวสำหรับประเทศไทยเรานั้นมีอยู่ทั่วไปในแหล่งน้ำธรรมชาติอันได้แก่ แม่น้ำ ห้วย หนอง คลอง บึงต่าง ๆ ทั่วทุกภาคของประเทศ

การเลี้ยงปลาตะเพียนขาว
  การเพาะเลี้ยงปลาตะเพียนขาวได้ดำเนินการเป็นครั้งแรกก่อนปี พ.ศ. 2503 ที่สถานีประมง (บึงบอระเพ็ด)นครสวรรค์ต่อมาการเพาะพันธุ์ปลาชนิดนี้ได้รับการพัฒนาทั้งวิธีเลียนแบบธรรมชาติและผสมเทียมซึ่งสามารถเผยแพร่และจำหน่ายอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน

อุปนิสัยและคุณสมบัติบางประการ
1. ความเป็นอยู่ 
ปลาตะเพียนขาวเป็นปลาที่หลบซ่อนอยู่ตามแม่น้ำ ลำคลอง หนอง บึง ที่มีกระแสน้ำไหลอ่อนๆ หรือน้ำนิ่ง เป็นปลาที่ทนต่อสิ่งเปลี่ยนแปลงและ สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี ทั้งยังเจริญเติบโตในน้ำกร่อยที่มี ความเค็มไม่เกิน 7 ส่วนพัน อุณหภูมิเหมาะสมสำหรับปลาชนิดนี้อยู่ระหว่าง 25 - 33 องศาเซลเซียส 

2. นิสัยการกินอาหาร 
    2.1 ระบบการกินอาหาร การตรวจสอบระบบการกินอาหารของ ปลาตะเพียนขาว ขนาด 12.5 - 25.5 เชนติเมตร พบว่า มีฟันในลำคอ (Pharyngeal teeth) เป็นชนิดกัดบดแบบสามแถว มีซี่เหงือกสั้นๆ อยู่ห่างกัน พอประมาณ ท่อทางเดินอาหาร กระเพาะอาหารไม่มีลักษณะแตกต่างจากลำไส้ ลำไส้มีผนังบาง ๆ ยาวขดเป็นม้วนยาว 2.02 - 2.73 เท่า ความยาวสุดของลำตัว 
     2.2 นิสัยการกินอาการ กล่าวกันว่าลูกปลาตะเพียนขาววัยอ่อน กินสาหร่ายเซลล์เดียวและแพลงก์ตอนขนาดเล็ก ส่วนพวกปลาขนาด 3 - 5 นิ้ว กินพวกพืชน้ำ เช่น แหนเป็ด สาหร่ายพุงชะโด ผักบุ้ง สำหรับปลาขนาด ใหญ่สามารถกินใบพืชบก เช่น ใบมันเทศ ใบมันสำปะหลัง หญ้าขน ๆลๆ พบว่าปลาตะเพียนขาวหาอาหารกินในเวลากลางวันมากกว่ากลางคืน 

3. การแยกเพศ
ลักษณะภายนอกของปลาตัวผู้คล้ายคลึงกันมากแต่เมื่อใกล้ผสมพันธุ์ จะสังเกตได้ง่ายขึ้นคือ ตัวเมียจะมีท้องอูมเป่งพื้นท้องนิ่มและรูก้นกว้างกว่าปกติ ส่วนตัวผู้ท้องจะแบนพื้นท้องแข็ง ถ้าเอามือลองรีดเบาๆ ที่ท้องจะมีน้ำสีขาวขุ่น คล้ายน้ำนมไหลออกมา หากเอามือลูบตามแก้มจะรู้สึกสากมือ

ภาพที่ 1 เปรียบเทียบลักษณะปลาตัวผู้และตัวเมียที่สมบูรณ์เพศ
ภาพที่ 2 เปรียบเทียบลักษณะเพศปลาตัวผู้และตัวเมีย

การเลี้ยงปลาตะเพียนขาว

  การเลี้ยงปลาตะเพียนมีรูปแบบการเลี้ยงหลายลักษณะ ได้แก่ การเลี้ยงในบ่อดิน ในนาข้าว ในร่องสวน และการเลี้ยงปลาในกระชัง ส่วนมากนิยมเลี้ยงปลาในบ่อดินกันมาก

การเลี้ยงปลาตะเพียนในบ่อดิน
  บ่อที่ใช้เลี้ยงปลาตะเพียนควรมีขนาดตั้งแต่ 200 ตารางเมตรขึ้นไปน้ำลึก 1 เมตร ควรมีการเตรียมบ่อโดยโรยปูนขาว อัตรา 1 กิโลกรัม ต่อเนื้อที่บ่อ 10 ตารามเมตร ถ้าเป็นบ่อเก่าควรกำจัดวัชพืชออกให้หมด ลอกโคลนเลนและแต่งคันบ่อให้เรียบร้อย ตากบ่อให้แห้งประมาณ 7 วัน การใส่ปุ๋ยถ้าเป็นปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักใส่ในอัตรา 50 – 200 กิโลกรัมต่อไร่ ถ้าเป็นปุ๋ยวิทยาศาสตร์ ใช้ 4 กิโลกรัมต่อไร่ (ปุ๋ยยูเรีย) สำหรับอัตราการปล่อยปลาที่เหมาะสมนั้นควรปล่อย 2 – 3 ตัวต่อตารางเมตร

อาหาร
  ปลาตะเพียนขาวสามารถกินอาหารได้หลายชนิด แต่โดยธรรมชาติแล้วปลาตะเพียนขาวขนาดเล็กไม่เกิน 3 นิ้ว จะกินพวกแพลงก์ตอนพืช และแพลงก์ตอนสัตว์ เมื่อมีขนาดใหญ่ขึ้นจึงเปลี่ยนมากินอาหารเป็นพวกพืชน้ำชั้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นการเลี้ยงปลาตะเพียนขาวเพื่อให้ได้ผลผลิตสูงควรมีทั้งการสร้างอาหารธรรมชาติในบ่อเลี้ยงในระยะเริ่มต้น เพื่อลดอัตราการตายเนื่องจากการเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารของปลาพร้อมทั้งการให้อาหาร สมทบที่มีโปรตีนในอาหารที่เหมาะสม

การให้อาหาร
  การให้อาหารปลาตะเพียนขาวจะให้ในอัตรา 3 – 10 % ของน้ำหนักปลาที่เลี้ยง (ปลา 100 กรัมให้อาหาร 3 – 10 กรัม) ขึ้นอยู่กับอายุและขนาดของปลา ปลาขนาดเล็กจะต้องการอาหารที่มากกว่าปลาขนาดใหญ่ โดยให้วันละ 1 – 2 ครั้ง การให้อาหารควรให้ตรงเวลา และสม่ำเสมอในบริเวณเดียวกันทุกครั้ง

ภาพที่ 3 การให้อาหารปลาตะเพียนขาว

โรคพยาธิและการป้องกันรักษา
  ปลาตะเพียนมีการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมได้ค่อนข้างไว เช่นการเปลี่ยนอุณหภูมิในรอบวัน ปริมาณออกซิเจนที่ละลายในน้ำ ความเป็นกรด – ด่างของน้ำ ตลอดจนสารพิษต่าง ๆ ที่มากระทบ ดังนั้นการจัดการด้านคุณภาพน้ำที่ใช้เลี้ยงปลามีความจำเป็นเพราะเป็นการป้องกันการเกิดโรคไว้ล่วงหน้าก่อน

สาเหตุที่ทำให้ปลาเป็นโรค

- นำลูกปลาติดโรค
พยาธิมาเลี้ยงโดยได้กำจัดโรคพยาธิเสียก่อน
- เลี้ยงปลาหนาแน่นเกินไป
- ให้อาหารมากเกินไป
- น้ำมีคุณภาพเสื่อมโทรมลง
- คุณภาพอาหารต่ำหรือไม่สด


รูปรวมปลาตะเพียนทอง และ ปลาตะเพียนขาว






0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหาบทความ เช่น "สัตว์ปีก"